Google

Wednesday, October 21, 2009

United Nations : Caucusing Group

สหประชาชาติ : กลุ่มแกนนำประชุม

ผู้แทนของหมู่รัฐสมาชิกที่สนใจในเรื่องเดียวกันได้มาประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำหนดแนวทางของกลุ่มเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญและที่เป็นส่วนแนวทางปฏิบัติที่เกิดขึ้นในสมัชชาใหญ่ กลุ่มแกนนำต่าง ๆ ที่ปัจจุบันมีความเข็มแข็งในสมัชชาใหญ่ ได้แก่ กลุ่มแอฟริกา (มีสมาชิก 50 ชาติ) กลุ่มเอเชีย (มีสมาชิก 41 ชาติ) กลุ่มอาหรับ (มีสมาชิก 21 ชาติ) กลุ่มยุโรปตะวันออก (มีสมาชิก 8 ชาติ) กลุ่มประชาคมยุโรป (มีสมาชิก 14 ชาติ) กลุ่มนอร์ดิก (มีสมาชิก 5 ชาติ) กลุ่มยุโรปตะวันตกและรัฐอื่น ๆ (มีสมาชิก 22 ชาติ) กลุ่มละตินอเมริกา (มีสมาชิก 33 ชาติ) กลุ่มชาติไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด (มีสมาชิก 101 ชาติ) และกลุ่มเจ็ดสิบเจ็ด (มีสมาชิก 128 ชาติ) จะมีเพียงไม่กี่รัฐที่ไม่ยอมจับกลุ่มกับแกนนำใด ๆ ได้แก่ จีน อิสราเอล แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา และ ยูโกสลาเวีย กลุ่มแกนนำมีข้อแตกต่างจากกลุ่มออกเสียงลงคะแนน กล่าวคือ สมาชิกของกลุ่มแกนนำไม่มีพันธะที่จะต้องออกเสียงลงคะแนนในสมัชชาใหญ่ตามที่ได้ตกลงใจในแกนนำนั้นและมีความผูกพันกันเหนียวแน่นน้อยกว่ากลุ่มออกเสียงลงคะแนน กลุ่มเจ็ดสิบเจ็ด(จี-77) ทำหน้าที่เป็นกลุ่มแกนนำที่ใหญ่ที่สุดในสหประชาชาติ และในการประชุมในระดับนานาชาติที่สำคัญ ๆ กลุ่มจี – 77 เริ่มมีบทบาทเข้มแข็งเป็นครั้งแรกในที่ประชุมของอังค์ถัด(การประชุมแห่งสหประชาขาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา)เมื่อปี ค.ศ.1964 และได้ขยายตัวจากเดิมที่มีสมาชิกอยู่ 77 ชาติ มามีสมาชิกจากกลุ่มประเทศในโลกที่ 3 ในปัจจุบันรวมกันถึง 128 ชาติ กลุ่มจี-77 นี้ประกอบด้วย ประชาชาติต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย แอฟริกา ละตินอเมริกา คาริบเบียน โอเชียนเนีย(หมู่เกาะในแปซิฟิกและออสเตรเลีย) และตะวันออกกลาง ซึ่งต่างก็มีจุดยืนร่วมกันในการต่อต้านสิ่งที่พวกตนถือว่าเป็นนโยบายล่าอาณานิคมแบบใหม่ของกลุ่มประเทศโลกที่ 1 และกลุ่มประเทศโลกที่ 2 กับสนับสนุนให้มีการช่วยเหลือทางด้านการพัฒนา สนับสนุนสิทธิมนุษยชน และสนับสนุนการสร้างระเบียบเศรษฐกิจระหว่างประเทศใหม่(เอ็นไออีโอ)

ความสำคัญ กลุ่มแกนนำต่าง ๆ ได้พัฒนาขึ้นมาในช่วงแรกๆ ที่ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกเริ่มต่อสู้กันเพื่อให้ได้ซึ่งส่วนแบ่งที่ยุติธรรมของที่นั่งในองค์กรหลัก ๆ ของสหประชาชาติ การเกิดขึ้นขององค์กรหลัก ๆ ของสหประชาชาติก็ดี การเกิดขึ้นของประชาชาติใหม่เป็นจำนวนมากก็ดี และการมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมามากมายในสมัชชาใหญ่ก็ดีล้วนเป็นตัวไปกระตุ้นให้มีกระบวนการประชุมแกนนำนี้ก่อนที่จะมีการออกเสียงลงคะแนนครั้งสำคัญ ๆ กลุ่มที่มีความโดนเด่นกลุ่มแรกที่เกิดขึ้นก็คือ กลุ่มโซเวียต เป็นกลุ่มที่มีความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมีเปอร์เซ็นต์สูงสุด คือกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ สำหรับกลุ่มเจ็ดสิบเจ็ดมีสมาชิกกระจายอยู่ทั่วโลก ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการออกเสียงลงคะแนนอยู่ในระดับสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นทางเศรษฐกิจ กลุ่มแกนนำต่าง ๆ ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการตกลงใจในสมัชชาใหญ่ คือ เปลี่ยนแปลงจากแบบที่ให้รัฐอธิปไตยแต่ละรัฐออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระในเรื่องต่าง ๆ ก็ให้มาเป็นแบบระบบรัฐสภาของภาคพื้นยุโรปชนิดที่มีระบบพรรคการเมืองแบบหลายพรรค กล่าวคือ ให้มีลักษณะการเข้ามาผสมผสานร่วมกัน และให้กลุ่มที่มีอิทธิพลต่าง ๆ สร้างความประนีประนอมในการบรรลุข้อตกลงในเรื่องต่าง ๆ กลุ่มแกนนำต่าง ๆ จะประชุมพบปะกันก่อนที่จะมีการประชุมนัดสำคัญ ๆ ของสมัชชาใหญ่หรือขององค์กรอื่น ๆ เพื่อสร้างจุดยืนร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ที่ถูกนำมาพิจารณา

No comments:

Post a Comment